ข้อ 37. ตอบ 2
การเหม็นหืนของน้ำมัน
หมายถึง การที่ไขมันมีกลิ่นปกติขณะเก็บ การที่ไขมันจะเหม็นช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับการเก็บรักษา เราควรเก็บไขมันและน้ำมันไว้ใรที่ที่ปิดมิดชิด การเหม็นหืนของไขมัน เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางวเคมี 2 แบบ ดังนี้
การเหม็นหืนเนื่องจากออกซิเจน ในระหว่างที่เก็บ กรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวจะทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ จะได้สารเพอร์ออกไซด์ซึ่งมีกลิ่นหืน กรดไขมันมีแขนคู่หลายอันเหม็นหืนเร็วกว่ากรดไขมันที่มีแขนคู่เพียงอันเดียว ในช่วงแรก ปฏิกิริยาการเหม็นหืนจะเป็นไปอย่างช้าๆ แต่ในช่วงหลังจะเร็วขึ้น การเติมไฮโดรเจนจะช่วยให้ไขมันเหม็นหืนช้าลงบ้าง น้ำมันพืชเหม็นหืนช้ากว่าน้ำมันสัตว์ ทั้งที่น้ำมันพืชมีกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวมากกว่า แต่น้ำมันพืชมีปริมาณวิตามินอีที่เป็นสารป้องกันออกซิเจนอยู่แล้วตาม ธรรมชาติ การเหม็นหืนของน้ำมันป้องกันได้โดยเก็บไขมันในภาชนะที่ทึบแสง อากาศเข้าไม่ได้ และต้องเก็บไว้ในที่เย็น
การเหม็นหืนเนื่องจากน้ำ วิธีนี้เกิดขึ้นน้อยกว่าการเติมออกซิเจน ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ นม เมล็ดพืชต่างๆ และอาหารที่แช่เย็นแข็ง การเหม็นหืนในที่นี้เกิดจากโมเลกุลของไขมันไตรกลีเซอไรด์ถูกย่อยด้วยน้ำย่อย ไลเปสเมื่อมีน้ำอยู่ด้วย ได้ไขมันโมเลกุลส้นๆที่มีกลิ่นหืน คือ กรดบิวไทริค ไลเปสอยู่ในอาหารที่มีไขมัน ถูกทำลายได้ด้วยความร้อน การเหม็นหืนจึงเกิดขึ้นเฉพาะในอาหารที่ผ่านความร้อนไม่สูงมาก หรือความร้อนที่ไม่มากพอที่จะทำลายเอนไซม์ การเหม็นหืนจึงป้องกันโดยใช้ความร้อนทำลายเอนไซม์ และระวังอย่าให้มีน้ำปนในไขมัน
สำหรับการบ่มมะม่วงมี 2 วิธีคือการบ่มในห้องบ่มและการบ่มในตะกร้า การบ่มในห้องบ่ม จะนำมะม่วงวางเรียงกันโดยเอาด้านขั้วลง แล้ววางห่อกระดาษที่บรรจุ แคลเซียมคาร์ไบต์ ห่อละประมาณ 100 กรัม ห่างกันประมาณ 20 เซนติเมตร
ที่มา http://www.promma.ac.th/main/chemistry/boonrawd_site/radicy.htm
ข้อ 38. ตอบ 2
ในทาง เคมี สารละลาย (อังกฤษ: solution) คือสารผสมที่เป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งมีสสารหนึ่งชนิดหรือมากกว่าเป็นตัวทำละลาย ละลายอยู่ในสารอีกชนิดหนึ่งซึ่งเป็นตัวถูกละลาย ตัวอย่างเช่น ไม่เพียงแต่ของแข็งที่สามารถละลายในของเหลว เหมือนเกลือหรือน้ำตาลที่ละลายในน้ำ (หรือแม้แต่ทองคำที่ละลายในปรอทแล้วเกิดเป็นอะมัลกัม (amalgam)) แต่ก๊าซก็สามารถละลายในของเหลวได้ เช่น คาร์บอนไดออกไซด์หรือออกซิเจนสามารถละลายในน้ำ
ข้อ 39. ตอบ 4.
ฝน เป็นรูปแบบหนึ่งของการตกลงมาจากฟ้าของน้ำ นอกจากฝนแล้วยังมีการตกลงมาในรูป
หิมะ เกล็ดน้ำแข็ง ลูกเห็บ น้ำค้าง ฝนนั้นอยู่ในรูปหยดน้ำซึ่งตกลงมายังพื้นผิวโลกจาก
เมฆ ฝนบางส่วนนั้นระเหยกลายเป็นไอก่อนตกลงมาถึงผิวโลก ฝนชนิดนี้เรียกว่า "virga"
ฝนที่ตกลงมานั้นเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของ
วัฏจักรของน้ำ ซึ่งน้ำจากผิวน้ำใน
มหาสมุทรระเหยกลายเป็น
ไอ ควบแน่นเป็นละอองน้ำในอากาศ ซึ่งรวมตัวกันเป็นเมฆ และในที่สุดตกลงมาเป็นฝน ไหลลงสู่
แม่น้ำ ลำคลอง ไปสู่
ทะเล มหาสมุทร และวนเวียนเช่นนี้เป็นวัฏจักรไม่สิ้นสุด
ปริมาณน้ำฝนนั้นวัดโดยใช้
มาตรวัดน้ำฝน โดยเป็นการวัดความลึกของน้ำที่ตกลงมาสะสมบนพื้นผิวเรียบ สามารถวัดได้ละเอียดถึง 0.25
มิลลิเมตร หรือ 0.01
นิ้ว บางครั้งใช้หน่วย ลิตรต่อตารางเมตร (1 L/m² = 1 mm)
โดยปกติแล้ว ฝนจะมีค่า
pH ต่ำกว่า 6 เล็กน้อย เนื่องมาจากการรับเอา
คาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศเข้ามาซึ่งทำให้ส่งผลเป็น
กรดคาร์บอนิก ในพื้นที่ที่เป็น
ทะเลทรายนั้นฝุ่นในอากาศจะมีปริมาณ
แคลเซียมคาร์บอเนตสูง ซึ่งส่งผลต่อต้านความเป็น
กรด ทำให้ฝนนั้นมีค่าเป็นกลาง หรือ แม้กระทั่งเป็น
เบส ฝนที่มีค่า pH ต่ำกว่า 5.6 นั้นถึอว่าเป็น
ฝนกรด (acid rain)
ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9D%E0%B8%99
ข้อ 40. ตอบ 1.
กรดไฮโดรคลอริก หรือ
กรดเกลือ (
อังกฤษ:
hydrochloric acid) เป็น
สารประกอบเคมีประเภท
กรดละลายใน
น้ำ โดยเป็น
สารละลายของ
ไฮโดรเจนคลอไรด์ (
HCl) เป็น
กรดแก่, เป็นส่วนประกอบหลักของ
กรดกระเพาะ (gastric acid) และใช้กันอย่างกว้างในอุตสาหกรรมเป็น
ของเหลวที่มีพลัง
การกัดกร่อนสูง
กรดไฮโดรคลอริก หรือ
มูเรียติกแอซิด ถูกค้นพบโดย "จาเบียร์ เฮย์ยัน" (Jabir ibn Hayyan) ราวปี
ค.ศ. 800 ช่วง
ปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution) ถูกใช้อย่างกว้างขวางในการผลิต
สารประกอบอินทรีย์ เช่น
วีนิลคลอไรด์ สำหรับผลิต
PVC พลาสติก และ
MDI/
TDI (Toluene Diisocyanate) สำหรับผลิต
พอลิยูลิเทน, (polyurethane) และใช้ในการผลิตขนาดเล็กเช่น การผลิต
เจนลาติน (gelatin) ใช้ปรุงอาหาร, และ ใช้ฟอกหนัง กำลังผลิตในปัจจุบันประมาณ 20 ล้าน
เมตริกตัน ต่อปี (20 Mt/a) ของก๊าซ HCl
ใน
การผลิต กรดไฮโดรคลอริกปริมาณมากๆ จะเกี่ยวข้องกับการผลิตสารประกอบเคมีตัวอื่นๆในเชิงอุตสาหกรรมด้วยในอุตสาหกรรม
คลอร์-อัลคะไล สารละลาย
เกลือจะถูก
อิเล็กโตรไลซ์ จนได้ผลผลิตออกมาเป็น
คลอรีน,
โซเดียมไฮดรอกไซด์, และก๊าซ
ไฮโดรเจน คลอรีนบริสุทธิ์ จะมาผสมกับก๊าซ
ไฮโดรเจนแล้วเกิดเป็นก็ซ HCl บริสุทธิ์ และปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นคือ
เอ็กโซเทอร์มิก, ระบบติดตั้งนี้เรียกว่า
ไฮโดรเจนคลอไรด์ โอเวน
-
- Cl2 + H2 → 2HCl
ก๊าซ
ไฮโดรเจนคลอไรด์บริสุทธิ์ถูก
ดูด (absorption) ลงน้ำ
ดีมิเนอไลซ์ได้เป็นกรดเกลือบริสุทธิ์ต่อไป
ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD
ข้อ 41. ตอบ 2.
ไอโซโทป (
อังกฤษ:
isotope) คือ
อะตอมต่าง ๆ ของ
ธาตุชนิดเดียวกัน ที่มีจำนวน
โปรตอนหรือ
เลขอะตอมเท่ากัน แต่มีจำนวน
นิวตรอนต่างกัน ส่งผลให้
เลขมวลต่างกันด้วย และเรียกเป็นไอโซโทปของธาตุนั้น ๆ. ไอโซโทปของธาตุต่าง ๆ จะมีสมบัติทาง
เคมีฟิสิกส์เหมือนกัน ยกเว้นสมบัติทาง
นิวเคลียร์ที่เกี่ยวกับ
มวลอะตอม เช่น
ยูเรเนียม มี 2 ไอโซโทป คือ
ยูเรเนียม-235 เป็นไอโซโทปที่แผ่รังสี และ
ยูเรเนียม-238 เป็นไอโซโทปที่ไม่แผ่รังสี
ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%9B
ข้อ 42. ตอบ 4.
จำนวน เวเลนซ์อิเล็กตรอน หรืออิเล็กตรอนที่อยู่ในระดับพลังงานนอกสุด ทำให้ทราบหมู่ของธาตุ ถ้าธาตุมีจำนวนเวเลนซ์อิเล็กตรอนเท่ากัน แสดงว่าธาตุนั้นอยู่ในหมู่เดียวกัน เช่น Na
มีเลขอะตอม 11
มีการจัดอิเล็กตรอนในระดับพลังงานดังนี้ 2, 8, 1 Na
มีเวเลนซ์อิเล็กตรอนเท่ากับ 1 K
มีเลขอะตอม 19
มีการจัดอิเล็กตรอนในระดับพลังงานดังนี้ 2, 8,8, 1 K
มี เวเลนซ์อิเล็กตรอนเท่ากับ แสดงว่า ธาตุ Na
และ K
อยู่ในหมู่เดียวกัน
ที่มา http://www.lks.ac.th/student/kroo_su/chem6/Page1.2.html
ข้อ 43. ตอบ 3.
สารประกอบ เป็น
สารเคมีที่เกิดจาก
ธาตุเคมีตั้งแต่สองตัวขึ้นไปมารวมตัวกันโดย
พันธะเคมีด้วยอัตราส่วนของส่วนประกอบที่แน่นอน ตัวอย่าง เช่น
ไดไฮโรเจนโมน็อกไซด์ หรือ
น้ำ มีสูตรเคมีคือ
H2Oซึ่งเป็นสารที่ประกอบด้วย
ไฮโดรเจน 2 อะตอม และ
ออกซิเจน 1 อะตอม
ในสารประกอบอัตราส่วนของส่วนประกอบจะต้องคงที่และตัวชี้วัดความเป็นสารประกอบที่สำคัญคือ
คุณสมบัติทางกายภาพ ซึ่งจะแตกต่างจาก
ของผสม(mixture) หรือ
อัลลอย (alloy) เช่น
ทองเหลือง(brass)
ซูเปอร์คอนดักเตอร์ YBCO,
สารกึ่งตัวนำ อะลูมิเนียม แกลเลียม อาร์เซไนด์(aluminium gallium arsenide) หรือ
ซ็อกโกแลต (chocolate) เพราะเราสามารถกำหนดอัตราส่วนของ
ของผสมได้
ตัวกำหนดคุณลักษณะเฉพาะของสารประกอบที่สำคัญคือ
สูตรเคมี (chemical formula) ซึ่งจะแสดงอัตราส่วนของอะตอมในสารประกอบนั้นๆ และจำนวนอะตอมในโมเลกุลเดียว เช่น สูตรเคมีของ
อีทีน (ethene) จะเป็น
C2H4 ไม่ใช่
CH2) สูตรไม่ได้ระบุว่าสารประกอบประกอบด้วยโมเลกุล เช่น
โซเดียมคลอไรด์ (เกลือแกง,
NaCl) เป็น
สารประกอบไอออนิก (ionic compound)
ประเภทของสารประกอบ
ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%9A
ข้อ 44. ตอบ 4.
สารละลายอุดมคติ (ideal solution) คือการที่ปฏิกิริยาระหว่าง โมเลกุล ของตัวทำละลายกระทำซึ่งกันและกันมีค่าเท่ากับปฏิกิริยาระหว่างตัวทำละลายกับ ตัวถูกละลาย แล้วคุณสมบัติของสารละลายในอุดมคติสามารถคำนวณได้โดยผลรวมเชิงเส้น (linear combination) ของคุณสมบัติของส่วนประกอบของมัน
ตัวทำละลาย (solvent) ตามความหมายแบบเดิมคือ สารในสารละลายที่มีปริมาณมากกว่าตัวถูกละลาย ถ้าทั้งตัวถูกละลายและตัวทำละลายมีปริมาณเท่ากัน (เช่น สารละลายมี เอทานอล 50% และ น้ำ 50%) คำจำกัดความเกี่ยวกับตัวทำละลายและตัวถูกละลายจะมีความสำคัญน้อยลง แต่โดยทั่วไปสารที่มีปริมาณมากกว่าจะถูกกำหนดให้เป็นตัวทำละลาย
ที่มา
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2
ข้อ 3. ตอบ 5 วัน
ประโยชน์จากการใช้ธาตุกัมมันตรังสีด้านการแพทย์ ใช้ไอโอดีน-131 (I-131) ในการติดตามเพื่อศึกษาความผิดปกติของต่อมไธรอยด์ โคบอลต์-60 (Co-60) และเรเดียม-226 (Ra-226) ใช้รักษาโรคมะเร็ง
ข้อ 7. ตอบ 50 วินาที
ไอโอดีน (
อังกฤษ:Iodine) คือ
ธาตุเคมีที่มี
หมายเลขอะตอม 53 และสัญลักษณ์คือ I ไอโอดีน (เป็นคำในภาษากรีก Iodes, มีความหมายว่า "สีม่วง") เป็นธาตุที่ไม่ละลายน้ำ มีความจำเป็นสำหรับสิ่งมีชีวิต สมบัติทางเคมีของไอโอดีนมีความไวน้อยกว่าธาตุในกลุ่ม
ฮาโลเจนด้วยกัน ไอโอดีนมีประโยชน์ในทางการแพทย์ การถ่ายภาพ และสีย้อมผ้า